11zon_cropped

วัดดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

082-563-5159 พระครูสุภัทรรัตนากร
85 หมู่ 2 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัด เชียงใหม่
ต้องใช้ชีวิตอย่างไร ในเมื่อมีแต่ความทุกข์

ผู้เขียน จัดเรียงและเขียนบทความนี้ขึ้น เนื่องจากความไม่สบายใจจากสถานการ์ณและเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นกับคนยุคสมัยใหม่ เนื่องด้วยข่าวการฆ่าตัวตายของคนรุ่นใหม่จากความคาดหวังและผิดหวังกับชีวิตที่เกิดขึ้นหวังว่า บทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกมีกำลังใจในชีวิต และเข้าใจถึงการมีชีวิตอยู่ต่อไป 

ภาพเกาหลี
รูปภาพจากช่องข่าว BBC News ไทย

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โรคร้ายที่มาแรง อย่าง โรคซึมเศร้า ภัยร้ายเงียบที่ก่อตัวขึ้นในมนุษย์ชาติกำลัง ลุกลามและแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว

และดูเหมือนจะเติบโตได้ ง่ายและไว ในกลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน ท่ามกลางความตึงเครียดของ เศรษฐกิจ การเงิน ความสัมพันธ์ และครอบครัว

สุดท้ายอาการกำเริบและรุนแรงมากขึ้น จนทำให้บางคนต้องจบชีวิตลงไปอย่างน่าเศร้า (ผู้เขียนรู้สึกเสียใจและขอให้ผู้ล่วงลับไปสู่สุขคติ)

เหตุใดหนอ ทำให้พวกเขาทั้งหลายล้วนจมอยู่กับความทุกข์ใจเช่นนี้

ในปัจจุบัน เราทุกคนอยู่ในยุคสมัยของทุนนิยม ทุกคนต่างต่อสู้และดิ้นรนกันเพื่อ ความอยู่รอด อาหาร น้ำ ทรัพยากร บ้าน รถ ที่ดิน เราทำงานหนัก เพื่อเป็นหลักประกันในชีวิต

ว่าเราจะสามารทมีชีวิตที่เป็นสุขและปลอดภัยห่างไกลจากความอดยากหิวโหยและความยาก ลำบากได้

จริงหรือ? การที่เราเป็นคนร่ำรวย มีสุขภาพที่ดี มีบ้านและที่ดิน ช่วยให้เราคลายกังวลเกี่ยวกับชีวิตได้

หากผู้อ่าน ได้ อ่านบทความเกี่ยวกับการถกเถียง กันระหว่าง นีล บอร์ และ ไอนสไตล์ ถึงแม้ เราจะทราบตัวแปรทุกอย่างอย่างชัดเจน เราไม่สามารทคำนวนอนาคตออกมาได้

ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า จึงเกิดความทุกข์ ขึ้นมา มันเป็นเพราะ เรามีความหวัง คาดหวัง อยู่แบบนี้ตลอดเวลา มันเลยทำให้ชีวิตเป็นทุกข์

เราคิดกันตลอดเวลา ไม่เคยมีเวลาแม้แต่ให้สมองหยุดคิด คิดมากเข้า พอคิดไม่ออกก็เกิดความเครียดขึ้นมา สมองยิ่งทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ

การมีความหวัง เป็นเรื่องที่ดี ทุกคนควรมีความหวัง แต่สิ่งที่ตามมาจากความหวังคืออะไร หาก ผลลัพธ์มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราตั้งใจไว้

ที่กล่าวมาคือ อยากให้ ผู้ที่มีความหวังทั้งหลายทำใจยอมรับกับสิ่งที่จะตามมาด้วยได้บ้าง เป็นไปได้หรือที่ทุกคนที่ลงมือทำ จะสามารทประสบกับความสำเร็จได้อยู่ตลอด

หยุดคิด 

ถึงแม้เรา ไม่คิด เราก็ยังรับประทานอาหารได้ปกติ ใช่หรือไม่ ? ถึงแม้เราไม่คิดเราก็สามารททำงานประจำที่เราทำอยู่ได้ใช่หรือไม่ ? 

ทั้งหมดที่กล่าวมาเราก็อาศัยความเคยชินในการทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว

ถ้า เราไม่คิดว่าว่าเรา เครียด เราก็คงไม่ต้องไปหาสิ่งบรรเทาความทุกข์จากภายนอกมาบำบัด เช่น เหล้า,ยา

ถ้าเราไม่คิดว่า ทำไมเราถึงยากจน เมื่อไหร่จะรวยเหมือนคนอื่น เราคงไม่ดั้นด้นตัวเองเพื่อให้มั่งมีขึ้นไม่ว่าด้วยวิธีการไหนก็ตาม

ถ้าเราไม่คิดว่า เราทำดีต่อทุกคน แล้วเราหวังว่าเขาจะดีตอบกลับเรา เราคงไม่ผิดหวัง

ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มันทำให้ เรา คิด อยู่หรือเปล่า

หวังว่า ผู้อ่าน ที่มีความทุกข์อยู่นั้น จะหยุดคิดได้บ้าง และดำเนินชีวิตต่อไปแบบปกติได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนอยากให้มองในมุมมองของความเป็นจริง ก่อน จะมองเป็นธรรมมะ เนื่องด้วย คนส่วนมากหรือแทบจะทั้งหมด มองเห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง หรือ รูปธรรมมากกว่า ผู้เขียนจึงไม่อยากยกตัวอย่างในเรื่อง นามธรรม 

ใช้ชีวิต อยู่กับ ปัจจุบันบ้าง เรื่องของอนาคต เราในที่นี้ล้วนเคยเป็น คาดเดาเอากันเองว่า ชีวิตต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ 

ซึ่งในความเป็นจริง ชีวิต มักไม่ได้เป็นแบบที่เราออกแบบไว้ เสมอไป

ดู หัวใจ ของตนเองก่อน จะให้คนอื่นมาตัดสินในตัวเรา

คำพูด ของคนอื่นมีค่าแค่ไหนกัน เมื่อเทียบกับ ใจของเราเอง

คนอื่นก็พูดเกี่ยวกับตัวเราได้ แต่ลึกๆแล้ว คำพูดเหล่านั้นมีค่าแค่ไหนกัน ในเมื่อ ใจเราไม่เป็นในแบบที่ผู้พูดกล่าว

เรามีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น หรือสิ่งที่คนอื่นคิด มองดูตัวเราก่อน จะไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น

คนอื่นก็ คือคนอื่น เขาได้ เขามี เขาเป็น ก็เป็น เหตุปัจจัย และ ผลลัพธ์ของเขาเอง จะมาเทียบกับเราได้อย่างไร ตัวแปรก็ต่างกัน สถานที่ก็ต่างกัน เหตุก็ต่างกันแล้ว

เราอยู่ได้ด้วยใจของเราเอง

The author has arranged and written this article due to the discomfort from the situation and events that occur to people in the modern era.

Due to the news of suicide among the new generation due to expectations and disappointment with life that occur, it is hoped that this article will help readers feel encouraged in life and understand how to continue living.

It is undeniable that the deadly diseases that are on the rise, such as depression, a silent threat that has formed in humanity, are spreading and multiplying rapidly.
And it seems to grow easily and quickly among teenagers and working-age people amidst the stress of the economy, finance, relationships, and family.
Finally, the symptoms flare up and become more severe, causing some people to end their lives tragically. (The author feels sorry and wishes that the deceased will rest in peace.)
Why is it that they are all so immersed in such suffering?
Nowadays, we are all in the era of capitalism. Everyone is fighting and struggling for survival: food, water, resources, houses, cars, land. We work hard to ensure that we will be able to live a happy and safe life away from hunger and hardship.
Is it true? Being rich, healthy, and having a house and land can help us relieve our worries about life.
If the reader has read the article about the debate between Niels Bohr and Einstein, even though we know all the variables clearly, we cannot calculate the future.

Is this why suffering occurs? It is because we have hopes and expectations all the time, which makes life miserable.

We think all the time, never having time for the brain to stop thinking. The more we think, the more stressed we become, and the brain works harder and harder.

Having hope is a good thing. Everyone should have hope, but what follows from hope? If the results are not as we expected.

What I have said is that I want all those who have hope to accept what will follow. Is it possible that everyone who takes action will be able to achieve success all the time?

Stop thinking

Even if we don't think about it, we can still eat normally, right? Even if we don't think, we can still do our regular work, right?

All of the above, we rely on our habits to do it as a routine.

If we don't think that we are stressed, we probably won't have to find things to relieve our suffering from outside, such as alcohol or drugs.

If we don't think about why we are poor, when will we be rich like others, we won't go to great lengths to become rich in any way.

If we don't think that we are doing good to everyone and we hope that they will do good to us in return, we won't be disappointed.

Do the desires, the desires to have, the desires to be, all these things make us think?
I hope that readers who are suffering will be able to stop and think about it for a while and continue living their lives normally.
However, the author would like you to look at it from the perspective of reality before looking at it as Dhamma. Because most people see everything as reality or concrete, the author does not want to give examples of abstract matters.

Live in the present sometimes. Regarding the future, we have all been there, guessing that life must be like this or like that.

In reality, life is often not always the way we design it.

Look at your own heart before letting others judge you.

What are the worth of other people's words compared to our own hearts?

Other people can talk about us, but deep down, what are those words worth when our hearts are not what they say?

We are happy with who we are or what others think. Look at ourselves before comparing ourselves to others.

Other people are just other people. They get, they have, they are, and they are their causes, conditions, and results. How can they compare us? The variables are different, the place is different, and the causes are different.

We live by our hearts, not others